
ตร.สภ.เมืองระยอง รวบผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านอาหารคาเฟ่ “ใบชะมวง” ในวิทยาลัยเทคนิคระยอง คาโรงแรมพร้อมของกลางที่ขโมยไป
จากกรณี ร.ต.อ.ธวัช หน่อสิงห์หา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้เชิญตัว นายทนงศักดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของรถคันก่อเหตุ ที่ใช้ขนของที่ขโมยไปหลบหนีตามคลิปกล้องวงจรปิดที่ปรากฎ หลังนายทนงศักดิ์ ได้ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถ จยย. ในพื้นที่ ม.1 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำตัวมาสอบสวนจนได้เบาะแสแหล่งที่อยู่ของผู้ก่อเหตุชายอีก 1 ราย ที่กำลังหลบหนีอยู่
เกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุด เวลา 02.00 น. วันที่ 4 ก.ย. 67 หลังสอบสวนนายทนงศักดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของรถคันก่อเหตุ จนทราบตัวผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) หรือ เค อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ได้หลบหนีพร้อมกลางอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองระยอง ต่อมา ร.ต.อ.เกรียงไกร วงศ์อ่อง รอง สว.สส.สภ.เมืองระยอง พร้อมชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.เมืองระยอง เข้าตรวจสอบภายในห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคาะประตูเรียกนายกฤษฎา (หรือ เค) ก่อนที่จะเปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจับกุมทันที นายกฤษฎา เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการร้อนรนให้การณ์ปฏิเสธในช่วงแรก และสุดท้ายต้องยอมจำนวนด้วยหลักฐานตรวจสอบในห้องพบของกลางที่ขโมยมาทั้งคอมพิวเตอร์ เครื่องบดกาแฟ ชุดเครื่องเสียง ขาดเพียงหน้าจอ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง โดยเพื่อนของผู้ต้องหาทราบชื่อคือนายต้น อายุ 34 ปี เอาไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมติดตาม ต่อมาจึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวนายเค ไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ทันที
นายกฤษฎา (ผู้ต้องหา) ให้การอ้างว่า เคยเป็นศิษย์เก่าที่วิทยาลัยแห่งนี้มาก่อน จบไปเมื่อปี 55 ออกมาไปทำงานโรงงานใน จ.ระยอง และออกมาได้ 10 ปีแล้ว เคยเสพยา ก่อนก่อเหตุอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาลักทรัพย์แต่จะมาหาผู้หญิงชื่อก้อย เป็นคนรู้จักอยู่ที่นี่แต่ไม่เจอ รู้จักกันมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว
ส่วนนายทนงศักดิ์ อายุ 40 ปี พนักงานขับรถรับจ้าง ผู้ที่ขับรถมารับนายกฤษฎา (หรือ เค) ผู้ต้องหา พร้อมช่วยขนของขึ้นรถและไปส่งที่หมาย ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงไม่ประสงค์ดำเนินคดีเพราะเป็นพยานที่ชี้นำไปที่ห้องเกิดเหตุจนจับผู้ต้องหาได้และยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงเบื้องต้นตรวจสอบประวัติ นายกฤษฎา (หรือ เค) พบว่ามีประวัติลักทรัพย์ก่อเหตุในเขตอำเภอบ้านฉาง อีกด้วย จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมียานพาหนะ และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.

+ There are no comments
Add yours