GC ผนึกกำลัง Toray Industries ยกระดับวัสดุเกษตรเหลือใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและยานยนต์คาร์บอนต่ำ

1 min read

GC ร่วมกับ Toray Industries, Inc. หรือ Toray ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมศึกษาความเป็นไปได้และแสวงหาโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตกรดมิวโคนิกและกรดอะดิปิกจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยตั้งเป้าหมายการผลิตกรดมิวโคนิกและกรดอะดิปิกชีวภาพในเชิงพาณิชย์รวมหลายพันตันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2573

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.67 – กรุงเทพมหานคร: บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมกับ Toray Industries, Inc. หรือ Toray ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมศึกษาความเป็นไปได้และแสวงหาโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตกรดมิวโคนิกและกรดอะดิปิกจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยตั้งเป้าหมายการผลิตกรดมิวโคนิกและกรดอะดิปิกชีวภาพในเชิงพาณิชย์รวมหลายพันตันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการการร่วมสร้างสรรค์อนาคตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (The Global South Future-Oriented Co-Creation Project) กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Ministry of Economic, Trade and Industry: METI) GC ได้นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการหมักขั้นสูงในการแปลงน้ำตาลจากวัสดุเหลือในทางการเกษตรในประเทศไทย เช่น กากมันสำปะหลังและกากอ้อย ซึ่งไม่ได้ใช้เป็นอาหารให้สามารถผลิตกรดมิวโคนิกชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ผสานความรู้และเทคโนโลยีของ Toray ในกระบวนการไฮโดรจิเนชันผลิตกรดอะดิปิกชีวภาพที่มีความบริสุทธิ์สูงจากกรดมิวโคนิกชีวภาพซึ่งกรดอะดิปิกชีวภาพนี้สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไนลอน-6,6 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการผลิตเรซินและเส้นใยที่มีคุณสมบัติคล้ายกับไนลอน-6,6 ที่ผลิตจากปิโตรเคมี อีกทั้งกระบวนการผลิตนี้ไม่ก่อให้เกิดไนตรัสออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ทางเคมี ความร่วมมือในโครงการนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของ GC ในการเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ โดยตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 พร้อมประยุกต์ใช้แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ยั่งยืน คำนึงถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) อย่างสมดุล รวมทั้งการจัดการทรัพยากรเหลือใช้อย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงความยั่งยืน และเป้าหมายของ Toray ในการใช้วัสดุจากการรีไซเคิล 20% ของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตโพลีเมอร์หลักภายในปี พ.ศ. 2593 โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนตามแนวทางการสร้างคุณค่าใหม่และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสังคม

คุณณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง GC และ Toray ในครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกัน โดย Toray มีปรัชญาในการสร้างนวัตกรรมจากเคมี ซึ่งตรงกับเป้าหมายของ GC ที่มุ่งหวังจะเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางเทคโนโลยีและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคตนอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ GC ได้มุ่งมั่นที่จะเติบโตไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ โดยมีแผนที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอชีวภาพและเสริมสร้างศักยภาพของ “ศูนย์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (Map Ta Phut specialty hub) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษและเคมีภัณฑ์ชีวภาพ รวมถึงการขยายเครือข่ายพันธมิตรตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อรองรับความต้องการวัสดุที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน GC และ Toray ได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเคมีภัณฑ์ชีวภาพ สำหรับไนลอน-6,6 โดยใช้น้ำตาลที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากบริษัท เซลลูโลซิค ไบโอแมส เทคโนโลยี จำกัด (Cellulosic Biomass Technology Co., Ltd. หรือ CBT) ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทยที่ Toray ถือหุ้นอยู่ถึง 84% การพัฒนาเทคโนโลยีนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากปิโตรเลียม โดยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยอีกด้วย.

หนุ่มคอแข็ง http://lomwongkhao.com

คนเขียนข่าว เว็บไซต์ lomwongkhao.com

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours