จับเจ้าของอู่ซ่อมรถลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า-ไอซ์-อาวุธปืน

ปกครองอำเภอแกลง จ.ระยอง กวาดล้างยาเสพพติด จับเจ้าของอู่ซ่อมรถลักลอบจำหน่ายยาเสพติด พร้อมจับเพื่อนอีกรายหลังมาร่วมเสพยาในอู่ โดยตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดอาวุธปืนเพียบ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.64 นายอรรถกร ผาสุข ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง (ปลัดอาวุโสอำเภอแกลง จ.ระยอง) พร้อมด้วยนายจุมพล กาญจนเทียนศรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายภาณุ อ้นสุวรรณ ผญบ.ม.2 นายศราวุธ แก่นสาร ผญบ.ม.3 ตำบลกองดิน สมาชิกกองร้อย อส.อำเภอแกลง และชุด ชรบ.หมู่บ้านตำบลกองดิน ร่วมกันจับกุมนายศราวุธ หรือเชษฐ์ อายุ 41 ปี ชาว จ.ระยอง นายชำนาญ อายุ 48 ปี ชาว จ.ระยอง พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 1,364 ยาไอซ์ 2.71 กรัม อาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระะบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo สีดำ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องช่างน้ำหนักดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 14,900 บาท และผลตรวจปัสสาวะฉี่สีม่วงจำนวน 2 ใบ

จากการสอบสวนทราบว่า นายศรายุทธ หรือเชษฐ์ เปิดอู่ซ่อมรถและลักลอบค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ม.6 ต.กองดิน อ.แกลง ฝ่ายปกครองอำเภอแกลง จึงได้ตรวจสอบหาข่าวและพบว่านายศราวุธ มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดจริง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบภายในอู่ซ่อมรถจึงพบยาบ้า ยาไอซ์ อาวุธปืนดังกล่าว โดยนายศราวุธ รับสารภาพพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองจริง และ จนท.ยังได้นำตัวนายสรายุธไปตรวจฉี่พบฉี่สีม่วง

นอกจากนี้ยังได้ควบคุมตัวนายชำนาญ ที่เข้ามาเสพยาภายในอุ่ซ่อมรถพบมีฉี่สีม่วงเช่นกัน และในกระเป๋ากางเกงยังพบยาไอซ์ 0.5 กรัม จนท.ยังได้ตรวจสอบประวัติพบว่านายชำนาญ มีหมายจับ 2 หมายจาก สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ในคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

เบื้องต้น จนท.แจ้งข้อกล่าวหานายศราวุธ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายชำนาญในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ปากน้ำประแสร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป