
สกพอ. ผนึกกำลัง 4 ภาคีเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สร้างระบบนิเวศการลงทุนที่ทุกคนมีส่วนร่วม เพื่อการพัฒนา EEC อย่างยั่งยืน
วันที่ 26 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 4 หน่วยงานเอกชน ประกอบด้วย นายทินกร ลาวัณย์เสถียร ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง นายณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาคมสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายมงคล พฤกษ์วัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย คลีน อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด และนายบดินทร์ อุดล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ East Water
ทั้งนี้ การลงนามครั้งนี้จัดขึ้นบนเวทีย่อย Mini Stage งาน EEC Expo 2025 เพื่อสร้างกลไกขับเคลื่อนการลงทุนที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกในพื้นที่ EEC หัวใจสำคัญของความร่วมมือ คือการเชื่อมโยง นักลงทุน–ผู้ประกอบการ–ชุมชนให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างสมดุล โดยยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน และ SME ส่งเสริมการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ตลาดในประเทศและต่างประเทศ เปิดช่องทางตลาดใหม่พร้อมการสนับสนุนด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์ และการจัดจำหน่าย และที่สำคัญคือ ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG และธรรมาภิบาล เพื่อความยั่งยืน
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวถึงความสำคัญของ MOU ครั้งนี้ว่า ‘นี่ไม่ใช่แค่ความร่วมมือ แต่คือการสร้างระบบนิเวศการลงทุนที่ทุกคนได้ประโยชน์อย่างเป็นธรรม เราต้องการเห็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ และชุมชนเติบโตไปด้วยกัน เกิดเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น การเสริมสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ และร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของพื้นที่ EEC ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดย สกพอ. จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงนักลงทุนกับชุมชนและผู้ประกอบการ พร้อมใช้มาตรการสนับสนุนสิทธิประโยชน์ และการอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยพลังความร่วมมือครั้งนี้ พื้นที่และชุมชนใน EEC จะไม่เพียงเป็นจุดหมายการลงทุนเท่านั้น แต่จะกลายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาที่สร้างโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน.
+ There are no comments
Add yours